- สามารถออกใบสั่งซื้อจากระบบได้
- สามารถกำหนดหน่วยงานสั่งซื้อได้ทั้งระบบใบสั่งซื้อ หรือระดับรายการสั่งซื้อ
- สามารถระบุวันกำหนดส่งของสินค้าต่างกันได้ในใบสั่งซื้อใบเดียวกัน
- สามารถระบุคลังสินค้าที่ต้องการให้ส่งสินค้าได้
- สามารถกำหนดความเร่งด่วนของคำสั่งซื้อได้
- สามารถระบุว่าเป็นคำสั่งซื้อของโครงการใดได้ (ในส่วนของโครงการสามารถกำหนดได้ไม่จำกัดระดับของโครงการ)
- สามารถระบุว่าเป็นคำสั่งซื้อของกิจกรรมใดได้
- สามารถดูรายงานการสั่งซื้อสินค้าได้
- สามารถดูรายงานสินค้าค้างส่งได้
- สามารถปิดคำสั่งซื้อได้กรณีที่มีการส่งสินค้าไม่ครบ แต่ไม่ต้องการให้ผู้จำหน่ายมาส่งสินค้าแล้ว และไม่ต้องการให้มีรายการสินค้าค้างส่งในรายงานคำสั่งซื้อ โดยที่ไม่ต้องมาแก้ไขจำนวนในใบสั่งซื้อ
โดยในกระบวนการซื้อ ต้องมีการกำหนดค่าเริ่มต้นต่างๆ ในระบบก่อนดังนี้
- กำหนดค่าของผู้จำหน่าย (Vendor) กรณีที่มีการซื้อจากผู้จำหน่ายเป็นประจำ มีการจ่ายชำระด้วยเช็ค ต้องการให้ระบบนำไปออกรายงานภาษีซื้อ จะต้องมีการกำหนดค่าของผู้จำหน่ายไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการขึ้นทะเบียนผู้จำหน่ายในระบบ
- กำหนดค่าของสินค้า สำหรับสินค้าที่มีการซื้อมาเพื่อขาย ต้องมีการกำหนดรหัสสินค้าด้วย หรือหากเป็นการซื้อมาเพื่อใช้ภายในกิจการ แต่ยังไม่ระบุว่าเป็นค่าใช้จ่ายของหน่วยงานใด จะบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายเมื่อหน่วยงานมีการเบิกใช้ และบันทึกค่าใช้จ่ายเข้าหน่วยงานนั้น ต้องมีการกำหนดค่าของรหัสสินค้า
- กำหนดค่าภาษี หรืออัตราภาษี สำหรับที่จะต้องใช้ในการออกรายการคำสั่งซื้อ
- การกำหนดค่าของหน่วยงาน เบื้องต้นระบบจะสร้างหน่วยงานให้ 1 หน่วยงานอยู่แล้วคือสำนักงานใหญ่ แต่หากภายในองค์กรมีหน่วยงานหลายหน่วยงาน และต้องการที่จะทราบรายได้หรือค่าใช้จ่ายต่อหน่วยงานก็สามารถกำหนดหน่วยงานได้ไม่จำกัด
- ราคาสินค้า ในการสร้างสินค้าจะต้องมีการระบุราคาของสินค้าไว้ด้วย และสามารถที่จะกำหนดวันที่จะเริ่มใช้ราคานั้นได้ด้วย หากมีการสั่งซื้อสินค้าที่ไม่ได้มีการกำหนดราคาไว้ ระบบจะฟ้องว่าสินค้าไม่ได้กำหนดราคา แต่่ผู้ใช้สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงราคาซื้อนี้ใหม่ได้ที่หน้าจอคำสั่งซื้อ ในทางกลับกัน ก็สามารถที่จะล็อกไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนแปลงราคาก็ได้ (ต้องมีการปรับแต่งระบบ)
No comments:
Post a Comment